“แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” กลายเป็นทีมที่ได้จุดโทษมากที่สุดในบรรดา ทีมจาก 5 ลีกใหญ่ยุโรป หลังได้จุดโทษลูกที่ 21 เกมเจอ “โคเปนเฮเกน”
หลังเกมที่ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” เฉือนชนะ เอฟซี โคเปนเฮแกน 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ โดยได้ประตูชัยจากลูกจุดโทษของ “บรูโน แฟร์นันดส์” ทำให้ “แมนยูฯ” ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศในศึก “ยูโรปา ลีก”
เริ่มเกมมา ทั้งสองทีมเล่นได้ค่อนข้างสูสีในช่วง 10 นาทีแรก แต่ยังแทบหาจังหวะที่มีลุ้นเป็นประตูกันไม่ได้ กระทั่งนาทีที่ 16 โคเปนเฮเก้น เกือบขึ้นนำก่อนจากจังหวะตัดบอลหน้าเขตโทษแต่ยังคงยิงไปติดผู้เล่น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ตามมาบล็อคเอาไว้ได้ทัน หลังจากนั้น ปีศาจแดง ดูจะครองบอลได้มากขึ้น แต่ยังหวะสุดท้ายในการเข้าทำดูจะยังไม่เฉียบขาดมากพอ
ช่วงท้ายครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ประตูจากจังหวะหลุดเดี่ยวของ กรีนวูด แต่สุดท้ายถูก VAR จับได้ว่าเป็นการล้ำหน้าไปก่อน ทำให้จบ 45 นาทีแรกยังเสมอกันแบบไร้สกอร์ 0-0 เริ่มครึ่งเวลาหลัง ทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชา ยังคงเป็นฝ่ายครองบอลได้เหนือกว่า แต่ก็ยังแทบไม่สามารถหาจังหวะจบได้
กระทั่งนาทีที่ 95 แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้จุดโทษและเป็น บรูโน เฟอร์นันเดส ที่สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ทีมออกนำ 1-0 ต่อมานาทีที่ 98 พลพรรค เร้ด เดวิลส์ เกือบได้ประตูที่สองจากจังหวะลากเดี่ยวของ มาร์กซิยาล ก่อนจ่ายก่อนให่ มาต้า แต่ยังยิงไปติดบล็อคอย่างน่าเสียดาย จบ 120 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ โคเปนเฮเก้น 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ โดยจะเข้าไปรอพบผู้ชนะ ระหว่าง วูล์ฟแฮมป์ตัน หรือ เซบีย่า ในวันที่ 16 สิงหาคมนี้