ทีมยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก ประจำสัปดาห์นี้ จัดเต็มด้วยผู้เล่นเกมรับที่โชว์ฟอร์มสุดสะเด่าที่มีส่วนร่วมกับประตูทุกราย ส่วนแผงกลางสองคู่หูจาก แอสตัน วิลล่า ติดเข้ามา ส่วนแนวรุกจากค่าย “หงส์แดง” เหมาสองประตูพาทีมคว้าชัย
ผู้รักษาประตู : แอร่อน แรมส์เดล (อาร์เซน่อล)
มีเซฟสวย ๆ หลายจังหวะ แสดงความนิ่งออกมาให้เห็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงครึ่งหลังที่โดนกดดันอย่างหนัก
กองหลัง : โฌแอล มาติป (ลิเวอร์พูล)
จับคู่กับ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ได้อย่างลงตัว รับมือกับแนวรุกของ เลสเตอร์ ได้ดีมาก และที่สำคัญคือการถวายพานให้ ดิโอโก้ โชต้า พังประตูตอกฝาโลง
กองหลัง : กาเบรียล มากัลเญซ (อาร์เซน่อล)
ถึงแม้จะทำประตูได้ทว่ามีบางจังหวะที่ผ่านอลไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม แนวรับแซมบ้า ถือว่าเอาอยู่ในช่วงที่ “เดอะ กันเนอร์ส” ต้องเล่นแค่ 10 คนในช่วงครึ่งหลัง
กองหลัง : เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ (ลิเวอร์พูล)
สุดอันตรายยามที่ทีมได้ลูกตั้งเตะ นอกจากนี้เรื่องเกมรับ แข้งดัตช์ ยังตัดบอลสวย ๆ รวมถึงเก็บตกลูกกลางอากาศได้แทบทั้งหมด
กองกลาง : แดเนี่ยล เจมส์ (ลีดส์ ยูไนเต็ด)
มีส่วนสำคัญที่พา “ยูงทอง” แบ่งตามจาก แอสตัน วิลล่า ได้สำเร็จ โดยปีกเวลส์เหมาสองประตูในเกมนี้
กองกลาง : ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ (แอสตัน วิลล่า)
จอมทัพแซมบ้า ร่ายมนต์สะกดผู้ชมที่ วิลล่า พาร์ค ทั้งการพังประตู และการผ่านบอล เนียนตาจน สตีเว่น เจอร์ราร์ด เอ่ยปากชมหลังจบเกม
กองกลาง : จาค็อบ แรมซี่ย์ (แอสตัน วิลล่า)
จบสกอร์อได้อย่างเฉียบขาดทั้งที่ไม่ใช่ผู้เล่นตัวรุก น่าเสียดายที่สองประตูของเขาไม่สามารถทำให้ทีมเอาชนะ ลีดส์ ได้
กองกลาง : เจมส์ วอร์ด-เพราส์ (เซาธ์แฮมป์ตัน)
ลูกนิ่งของเขามักมีทีเด็ดมาฝากแฟน ๆ เสมอ การทำแอสซิสต์ด้วยลูกครอสกลายเป็นเครื่องหมายการค้าของ วอร์ด-เพราส์ จนทำให้ทีมบุกคว้าชัยที่ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม
กองกลาง : โมฮาเหม็ด เอลยูนูสซี่ (เซาธ์แฮมป์ตัน)
ผ่านบอลให้ เช อดัมส์ พังประตูได้อย่างยอดเยี่ยม สร้างปัญหาให้แก่ เอแมร์ซอน วิงแบ็ก สเปอร์ส บ่อยครั้ง
กองหน้า : อัลแล็ง แซงต์-มักซิแม็ง (นิวคาสเซิ่ล)
ปั่นป่วนแนวรับ เอฟเวอร์ตัน จนหัวหมุน รวมถึงเป็นคนที่ทำให้ทีมได้ประตูที่สอง การมี แซงต์-มักซิแม็ง แค่คนเดียวสามารถช่วยยกระดับแนวรุก “สาลิกาดง” ได้เยอะมาก
กองหน้า : ดิโอโก้ โชต้า (ลิเวอร์พูล)
เหมาสองประตูพา ลิเวอร์พูล บดชนะ เลสเตอร์ จากโอกาสยิงเพียงแค่ 3 ครั้ง นอกจากนี้ โชต้า ยังโชว์พลังทุ่มเทเกินร้อยไล่บดบี้กดดันฝ่ายตรงข้ามตลอดเวลา