ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สี่สโมสรจากศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตบเท้าเดินหน้าเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2021/2022 ได้อย่างยอดเยี่ยม
สำหรับ “หงส์แดง”, “เรือใบสีฟ้า” และ “ปีศาจแดง” โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งเมื่อสามารถคว้าแชมป์กลุ่ม ในขณะที่ “สิงโตน้ำเงินคราม” ดันพลาดท่าในเกมสุดท้ายเสมอ เซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก 3-3 ทำให้พวกเขาต้องหล่นไปเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม เอช
การจับสลากในรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 13 ธันวาคมนี้ และแน่นอนว่า 4 สโมสรในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีไม่ว่าจะเป็นทีมวางหรือไม่เป็นทีมวาง ก็มีสิทธิ์ที่จะต้องเจอกับคู่แข่งที่สุดแกร่งเช่นกันในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
สำหรับ ลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้ และ แมนฯ ยูไนเต็ด ถูกจัดให้อยู่ในทีมวางเนื่องจากคว้าแชมป์กลุ่ม และจะต้องปะทะกับทีมอันดับ 2 ในกลุ่มอื่น อย่างไรก็ตามพวกเขาจะไม่มีสิทธิ์จับสลากพบกับทีมจากประเทศเดียวกัน หรือทีมคู่แข่งเดิมที่เจอกันในรอบแบ่งกลุ่ม
8 ทีมวางในรอบน็อกเอาต์มีดังนี้ :
- อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม (เนเธอร์แลนด์, กลุ่ม ซี)
- บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี, กลุ่ม อี)
- ลิเวอร์พูล (อังกฤษ, กลุ่ม บี)
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ, กลุ่ม เอ)
- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ กลุ่ม เอฟ)
- เรอัล มาดริด (สเปน, กลุ่ม ดี)
- ลีลล์ (ฝรั่งเศส, กลุ่ม จี)
- ยูเวนตุส (อิตาลี, กลุ่ม เอช)
8 ทีมที่ไม่ใช่ทีมวางในรอบน็อกเอาต์ มีดังนี้ :
- แอตเลติโก มาดริด (สเปน, กลุ่ม บี)
- อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี, กลุ่ม ดี)
- ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส, กลุ่ม เอ)
- สปอร์ติ้ง ลิสบอน (โปรตุเกส, กลุ่ม ซี)
- เบนฟิก้า (โปรตุเกส, กลุ่ม อี)
- บียาร์เรอัล (สเปน, กลุ่ม เอฟ)
- เรด บูลล์ ซัลซ์บวร์ก (ออสเตรีย, กลุ่ม จี)
- เชลซี (อังกฤษ, กลุ่ม เอช)
สโมสรในศึกพรีเมียร์ลีกมีโอกาสจะได้พบกับทีมไหน ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย และทีมไหนเบา หรือหนักที่พวกเขาจะต้องพบ
ลิเวอร์พูล
คู่แข่งที่มีโอกาสจะได้เจอ : ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, อินเตอร์ มิลาน, เบนฟิก้า, บียาร์เรอัล, สปอร์ติ้ง ลิสบอน, เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก
คู่แข่งที่เบาที่สุด : เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก
คู่แข่งที่โหดที่สุด : ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
คู่แข่งที่มีโอกาสจะได้เจอ : แอตเลติโก มาดริด, สปอร์ติ้ง ลิสบอน, อินเตอร์ มิลาน, เบนฟิก้า, บียาร์เรอัล, เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก
คู่แข่งที่เบาที่สุด : เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก
คู่แข่งที่โหดที่สุด : อินเตอร์ มิลาน
เชลซี
คู่แข่งที่มีโอกาสจะได้เจอ : อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม, บาเยิร์น มิวนิค, เรอัล มาดริด, ลีลล์
คู่แข่งที่เบาที่สุด : ลีลล์
คู่แข่งที่โหดที่สุด : บาเยิร์น มิวนิค
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
คู่แข่งที่มีโอกาสจะได้เจอ : แอตเลติโก มาดริด, อินเตอร์ มิลาน, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, เบนฟิก้า, สปอร์ติ้ง ลิสบอน, เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก
คู่แข่งที่เบาที่สุด : สปอร์ติ้ง ลิสบอน
คู่แข่งที่โหดที่สุด : ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
สำหรับการแข่งขันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรกจะฟาดแข้งกันในวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ และนัดสองตะบันกันในวันที่ 8-9 มีนาคม ที่สำคัญตั้งแต่รอบน็อกเอาต์เป็นต้นไปจะไม่มีกฎอเวย์โกล หรือกฎยิงประตูทีมเยือนที่มีมาตั้งแต่ปี 1965 อีกต่อไปแล้ว โดยหากผลสองนัดแล้วสกอร์เสมอกัน ก็จะต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที และหากสกอร์ยังเสมอกันอยู่ ก็จะตัดสินหาผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษ